การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยอย่างยั่งยืนควรเริ่มที่ไหน

การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยอย่างยั่งยืนควรเริ่มที่ไหน

การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ภาครัฐได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน หากภาคครัวเรือนไม่สามารถรักษาวินัยทางการเงินได้ เพราะสาเหตุสำคัญของการก่อนหนี้และการมีปัญหาชำระหนี้ของครัวเรือน ล้วนเกิดจากรายจ่ายที่ไม่เพียงพอกับรายได้ โดยเฉพาะรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและเกินรายได้ โดยเฉพาะรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและเกินฐานะ หรือขาดการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสมในระยะยาว

การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

กว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา หนี้ครัวเรือนไทยตกเป็นประเด็นต่างๆ ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหนี้ที่เร่งตัวขึ้นมาก อันมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่นมาตรการรถคันแรกที่ทำให้เกิดการเร่งกู้เพื่อซื้อรถยนต์ ภาวะที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินในระบบที่มากขึ้นเป็นต้นส่งผลให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP อยู่ในระดับสูงสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให่ครัวเรือนไทยสะสมความเปราะบางทางการเงินและปัจจัยเสี่ยงต่างๆมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบมากกว่าความเข้มแข็งและเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมในที่สุด

การศึกษานี้มุ่งวิเคราะห์ความแตกต่างของพฤติกรรมการใช้จ่ายระหว่างกลุ่มครัวเรือนต่างๆ ได้แก่  1.กลุ่มครัวเรือนที่มีหนี้กับไม่มีหนี้ และ 2)กลุ่มครัวเรือนที่มีหนี้และมีปัญหาในการชำระหนี้กับกลุ่มที่มีหนี้แต่ไม่มีปัญหา ทั้งนี้มีหลายปัจจัยที่กระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของครัวเรือน เช่น รายได้ ทรัพย์สินทางการเงิน จำนวนสมาชิกในครัวเรือน เป็นต้น การวัดความแตกต่างของพฤติกรรมการใช้จ่ายระหว่างกลุ่มครัวเรือนอย่างถูกต้อง จำเป็นต้องควบคุมปัจจัยต่างๆให้คงที่ (ไม่ใช่เพียงการหาค่าเฉลี่ยของ 2 กลุ่ม)แล้วเปรียบเทียบกัน ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีการทางเศรษฐมิติหรืออธิบายอย่างง่ายๆได้ว่า หากเรามีครัวเรือนสองกลุ่มที่มีรายได้เท่ากัน มีสินทรัพย์ทางการเงินเท่ากันอยู่ในพื้นที่เดียวกัน มีอาชีพเหมือนกัน จำนวนสมาชิกในครัวเรือนเท่ากัน แต่แตกต่างที่ความเป็นหนี้หรือการมีปัญหาในการชำระหนี้แล้วทั้ง 2 กลุ่มนี้จะยังคงมีพฤติกรรมการใช้จ่ายอันส่งผลต่อวินัยทางการเงินที่แตกต่างกันหรือไม่ ซึ่งได้ข้อสรุปที่สำคัญดังต่อไปนี้

การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน
1.ครัวเรือนที่มีหนี้ขาดวินัยทางการเงินจริงหรือไม่

ผลการศึกษาพบว่า เมื่อควบคุมปัจจัยต่างๆแล้ว กลุ่มครัวเรือนที่มีหนี้มีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มครัวเรือนที่ไม่มีหนี้อย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายไม่ประจำ เช่น ค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง และค่าเสื้อผ้า สะท้อนการใช้จ่ายที่สุรุยสุร่ายนอกจากนี้กลุ่มครัวเรือนที่มีปัญหาในการชำระหนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน  ยกตัวอย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเมื่อควบคุมปัจจัยเพิ่มเติม เช่น จำนวนผู้สูงอายุในครัวเรือน ทำให้ไม่พบความแตกต่างด้านการรักษาพยาบาลสูงที่มาจากการมีผู้สูงอายุ ทุกครัวเรือนจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทั้งในด้านการรักษาวินัยทางการเงิน และการหมั่นดูแลรักษาสุขภาพเพื่อฐานะทางการเงินที่มั่นคงในระยะยาว เพราะความเจ็บป่วย เป็นเรื่องธรรมชาติที่คุณอาจประสบพบเจอ แต่เราสามารถป้องกันให้เกิดน้อยครั้ง

การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน
2.ในบรรดาครัวเรือนที่มีหนี้ ครัวเรือนที่มีปัญหาในการชำระหนี้แตกต่างจากครัวเรือนที่ไม่มีปัญหาอย่างไร

จากการศึกษาพบว่า กลุ่มครัวเรือนที่มีปัญหาในการชำระหนี้ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มครัวเรือนที่ไม่มีปัญหาอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายไม่ประจำ เช่น ค่าใช้จ่ายเพื่อการบันเทิง และค่าเสื้อผ้า สะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายที่สุรุ่ยสุร่าย นอกจากนี้กลุ่มครัวเรือนที่มีปัญหาในการชำระหนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่าครัวเรือนที่มีปัญหานอกจากพฤติกรรมการมใช้จ่ายที่ไม่ระมัดระวังแล้ว ยังมีค่ารักษาพยาบาลสูงที่มาจากการมีผู้สูงอายุ ทกครัวเรือนจำเป็นต้องมีความพร้อมทั้งในด้านการรักษาวินัยทางการเงินและการหมั่นดูแลสุขภาพร่างกาย เช่นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการทำประกันสุขภาพ เพื่อฐานะทางการเงินที่มั่นคงในระยะยาว เพราะความเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนอาจประสบพบเจอ แต่เราสามารถป้องกันให้เกิดน้อยครั้งและเป็นภาระทางการเงินให้น้อยที่สุดได้

จากข้อสรุปข้างต้น จะเห็นได้ว่าการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ภาครัฐได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การส่งเสริมทางการเงิน มาตรฐานการดูแลสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับ รวมทั้งการจัดตั้งคลีนิคแก้หนี้ จะไม่สามารถบรรลุเป่าหมายได้อย่างยั่งยืนหากภาคครัวเรือนไม่สามารถรักษาวินัยทางการเงินได้ เพราะสาเหตุประการสำคัญของการก่อหนี้ และการมีปัญหาชำระหนี้ของครัวเรือนล้วนเกิดจากรายจ่ายที่ไม่เพียงพอกับรายได้ โดยเฉพาะรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและเกินฐานะ หรือขาดการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสมในระยะยาว

 ขอบคุณที่มา : https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/DocLib_/Article_2Oct2018.pdf
คะแนนผู้เขียน
3.3/5

Similar Posts