8 คำถามที่ต้องคิดเมื่อชีวิตมีปัญหา
“เมื่อมีปัญหา เราก็ต้องหาทางออก” เป็นคำพูดที่ไม่ต้องพูดก็รู้ แต่ถ้าคิดหาทางออกได้ง่ายๆ มันจะเรียกว่ามีปัญหาได้อย่างไร? ถ้างั้นก่อนจะคิดหาทางออกของเรื่องนี้ ซีเอแอล ลิสซิ่ง ได้นำบทความดีๆเกี่ยวกับ 8 คำถามที่ต้องคิดมาให้ทุกคนมาคิดดูก่อน เพราะบางทีนี่อาจทำให้ได้คำตอบใหม่ๆ ให้ชีวิตในตอนนี้ก็เป็นได้
เรามาดู 8 คำถามที่ต้องคิดเมื่อชีวิตมีปัญหา กันเลยดีกว่า

1. คุณเป็นคนเดียวในโลกหรือเปล่า ที่กำลังเผชิญปัญหานี้?
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสิ่งที่คุณต้องประสบอยู่ตอนนี้ ไม่มีใครไม่เคยพบเจอ แน่นอนต้องมีคนเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วทั้งสิ้น บางทีอาจมากกว่าคุณด้วยซ้ำไป แล้วคนพวกนั้นผ่านไปได้ยังไง? คุณไม่ใช่คนเดียวบนโลกเสียหน่อยกับเรื่องเหล่านี้ในตอนนี้ บางทีอาจเป็นเรื่องที่ ใครๆ เขาก็ต้องเคยผ่านกันมาทั้งนั้น..
2. จะให้เป็นเหมือนทุกวันได้ยังไง?
ชีวิตย่อมมีขึ้นมีลง อาจฟังดูยอมรับยาก แต่หากถามว่าแล้วจะให้เหมือนกันทุกวันได้อย่างไร ในเมื่อบางวันเรายังกินข้าว บางวันเรายังกินก๋วยเตี๋ยว บางวันเรากินหวาน บางวันเรากินเผ็ด เราเองยังใช้ชีวิตเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แล้วจะให้อะไรๆ มันดีเสมอต้นเสมอปลายคงหาได้ยาก นี่จึงทำให้ต้องทบทวนว่าจะให้มันเหมือนทุกวันได้ยังไง มันก็ต้องมีวันแย่ๆ กันบ้าง
3. เลวร้ายที่สุดได้แค่ไหนกัน?
เมื่อมันเกิดขึ้น ภาวะวิตก ตกใจบ้าง อ่อนแอบ้าง เรามักจะจินตนาการแต่สิ่งแย่ๆ และกลัวนั่นกังวลนี่ขึ้นมาก่อนทันที เป็นปกติและไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ถ้าคิดให้กว้างไกลไปอีกหน่อยว่ากับคำถามที่ว่าจะแค่ไหนกันเชียว ยังไงก็คงไม่ตายหรอก ตรงนั้นเองบางทีสติจะมาปัญญาจะเกิดได้เลยก็มี

4. แพ้แล้วไงต่อ?
บางทีสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรเลย เว้นเสียแต่ว่ามันกระทบความมั่นคงทางสถานะ บนความรู้สึก หรือศักดิ์ศรี ที่บางทีมันคือความพ่ายแพ้ ที่เราไม่อยากยอมรับ และไม่จำเป็นต้องมีใครรู้หรือเข้าใจ ว่านี่มันคือสิ่งที่เรารับไม่ได้ เพียงแต่บางครั้งมันอาจเลวร้ายลงกว่าเดิมหรือไม่มีอะไรดีขึ้นเลย แพ้แล้วไง เสียหน้า? เสียเส้น? เส้นเซลฟ์? การไม่รีบยอมรับคือการ เสียโอกาสที่จะชนะใหม่มากกว่า
5. ไม่เคยเจอ? มากกว่านี้?
ในบางเรื่องเราเจอมามากกว่า 1 ครั้ง แต่ทุกครั้งเรากลับมองว่า นี่มันแย่จังเลย เจออีกแล้ว เบื่อมาก ท้อมาก แต่หากปรับคิดใหม่ว่า ไม่เคยเจอเหรอเรื่องแบบนี้ ก็พอรู้นี่ว่าจะแก้ยังไงหรือบางทีเรื่องนี้ ที่เคยเจอมามันมากกว่านี้ยิ่งกว่านี้อีกยังผ่านไปได้ ที่สำคัญกว่านั้นบางทีทำไมเรายังปล่อยให้สิ่งนี้เกิดได้อีกนะ
6. ทำได้เท่านี้เองเหรอ?
ถ้ามีแล้วอยู่ในภาวะแก้ง่ายสบายๆ เราคงไม่ต้องมีเรื่องให้ปวดหัวสักเท่าไร แต่เพราะเรารู้สึกว่ามันแก้ยาก ลำบากใจหรือเหตุใดก็ตามมันจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราคิดมาก เพียงในส่วนที่เราคิดหรือรู้สึกว่าแก้ยากนั้นมันอาจเป็นเพียงแค่สิ่งที่เราไม่เคยลองพยายาม แม้กระทั่งดูถูกความสามารถตัวเอง จนคิดสรุปเอาว่าเราคงแก้ไขไปไม่ได้ คำถามนี้จึงควรมีขึ้นอย่างท้าทายตนเองดูและต้องยิ่งรู้ด้วยว่า ไม่มีใครแก้ไขได้ดีไปกว่าเรา

7. ใครที่เราเห็น?
อาจจะเป็นสิ่งที่ถามต่อจากคำถามเมื่อครู่ หรือคำถามอื่นๆ ด้วย เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ชีวิตจะได้คัดกรองสิ่งแวดล้อมโดยอย่างยิ่ง “คน” ที่คุณควรจะใส่ใจหรือมองให้ชัดขึ้นเพื่ออนาคต จริงอยู่ว่าตนควรต้องเป็นที่พึ่งเห็นตนเป็นสำคัญ แต่การมีกัลญาณมิตรที่ดี ไม่ว่าจะเป็นญาติ พี่น้องหรือไม่ก็ตาม เพื่อนที่สนิทหรือไม่สนิทก็ตาม มันจะได้เรียนรู้ชัดเสียทีว่า คุณเสียเวลากับ “คน” แบบไหนมา ซึ่งจะโทษใครไม่ได้ด้วยเพราะว่าคุณเลือกเก็บคนแบบนั้นมาตลอดเอง ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ชีวิตจะได้ไปไกล และที่ผ่านมามันไม่ไปไหนอาจเพราะอยู่ในวงล้อม “คนเดิมๆ”
8. นี่คือโอกาสของอะไร?
ก็เป็นอีกคำถามที่ถามต่อจากคำถามอื่นๆ คล้ายกับคำถามก่อน ในแต่ละเรื่อง มีสิ่งที่เป็นปัจจัยมากน้อยทำให้ในตอนนี้อาจแก้ไม่ได้จริงๆ ดังนั้น ลองทิ้งหรือวางมันลง ปลงมันสักครู่แล้วดูว่านี่คือโอกาสของอะไร? หลายคนร่ำรวยจากวิกฤติบางอย่างแต่เห็นโอกาส สิ่งประดิษฐ์สำคัญหลายอย่างเกิดจากความผิดพลาด ช่วงเวลาที่ร้ายที่สุดก็เคยกลายเป็นดีที่สุดของใครหลายคนแม้แต่เราเอง หากมองไปทางอื่นดูบ้าง บางทีอาจเห็นว่านี่ เป็นโอกาสของอะไร ที่มันทำให้กลายเป็นดีขึ้นก็เป็นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : sirichaiwatt.com